ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามของลูกเสือ ในงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2566
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามของลูกเสือ ในงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2566 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ คณะผู้บริหาร สลช. ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ บุคลากรลูกเสือ ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บำเพ็ญประโยชน์ เข้าร่วม
ในการนี้ ประธานองคมนตรี วางพวงมาลัยและจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา จากนั้น ไปยังพลับพลาพิธีฯ มอบเหรียญลูกเสือสรรเสริญชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 ประจำปี 2565 แก่บุคลากรทางการลูกเสือที่ประกอบความดีความชอบช่วยชีวิตผู้ตกอยู่ในอันตราย 3 คน พร้อมมอบโอวาท และเป็นประธานในพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามของลูกเสือ ในงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2566
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะทรงเป็นองค์พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานหลักสูตร และตราสัญลักษณ์ลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน แก่คณะลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานลูกเสือจังหวัด 77 จังหวัด ร่วมขับเคลื่อนการฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือ และการฝึกอบรมลูกเสือ โดยมีผู้บังคับบัญชาลูกเสือและบุคลากรทางการลูกเสือผ่านการอบรมลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน 6,160 คน ลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน 123,200 คน มีสถานศึกษาเข้าร่วมโครงการฯ 3,080 แห่ง โดยปีนี้ ได้จัดส่งผู้บังคับบัญชาลูกเสือ, ลูกเสือ, เนตรนารี เข้าร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ 25 ณ สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อพัฒนาเยาวชนลูกเสือไทยสู่สากล โดยที่ผ่านมาสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้ปลูกฝัง ฝึกฝนอบรม และพัฒนาเยาวชนของชาติให้มีคุณภาพ ยึดมั่นในอุดมการณ์ของลูกเสือ ให้มีความรักความศรัทธาในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รู้จักบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคม อันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่สำคัญในการส่งเสริมให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของชาติต่อไปในอนาคต