รมว.ตรีนุช ร่วมพิธีลงนามโครงการ Stop Online Child Sexual Abuse” ย้ำ เด็กไทยห่างไกลภัยออนไลน์

วันนี้ (9 มีนาคม 2566) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกแสดงเจตจำนง “โครงการ Stop Online Child Sexual Abuse” ภายใต้แนวคิดหลัก “การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย” ณ ห้องพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี

ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน

ดร.ถวิลวดี บุรีกุล รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า Ms. Starla Sanchez Assistant Attaché – Homeland Security Investigations ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมด้วย

รมว.ศธ. กล่าวว่า รัฐบาลโดยการนําของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนด “โครงการแก้ไขจัดการ ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ทางอินเทอร์เน็ต ภายใต้โครงการประชารัฐ ยุติธรรมนําเด็กปลอดภัย” ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ ได้สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา หรือ MOE Safety Center เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ให้มีทักษะการดำเนินชีวิตที่ดี และมีความรู้ที่เท่าทันต่อการใช้เทคโนโลยีในการรับสื่อบนสังคมออนไลน์ การแสดงเจตจํานงร่วมกันในวันนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยรับรู้ถึงวิธีการป้องปรามอาชญกรรมทางเพศออนไลน์ เพื่อจะ “ปลูกฝัง ป้องกัน และปราบปราม”ให้ภัยอันตรายนี้หมดไปจากสังคมไทย ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงต่างๆ รวม 12 กระทรวง ขับเคลื่อน “โครงการ 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ” สร้างเสริมสุขภาวะผู้เรียน 4 มิติ Head Hand Health Heart พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทุกมิติที่จะเกิดขึ้น ตามบริบท ของสังคมโลก โดยในปี2566 มีเป้าหมายที่จะแต่งตั้งครูอนามัยที่สามารถเป็นพี่เลี้ยง (Coach) ในโรงเรียนมัธยม 2,369 แห่ง และ นักเรียน ม.ปลาย 1 ล้านคน

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า โครงการ “Stop Online Child Sexual Abuse” เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มสิงโต รุ่นที่ 12 ซึ่งเป็นนักศึกษาหลักสูตรผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย (ปนป.) รุ่นที่ 12 สถาบันพระปกเกล้า และหน่วยงานพันธมิตร ซึ่งพิธีลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดจากช่องทางออนไลน์ ของเด็กช่วงอายุระหว่าง 12 – 18 ปี เพื่อลดภัยคุกคามจากเหตุต่างๆ อาทิ ลดการถูกละเมิดสิทธิของเด็กและเยาวชน ลดปัญหาภัยไซเบอร์ ลดช่องว่างทางความรู้ในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต อีกทั้งยังเป็นการ บรรเทาปัญหาความเปราะบางทางสังคมที่เกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลไปถึงการผลักดัน พรบ. คุ้มครองเด็กให้เป็นรูปธรรม อีกทั้งยังเป็นการป้องกันปัญหาคุณแม่วัยใส ซึ่งเป็นประเด็นที่ ศธ. ได้มุ่งเน้น โครงการดังกล่าว นอกจากจะได้รับความร่วมมือจาก ศธ. แล้วยังได้รับความร่วมมือจาก กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ Homeland Security Investigations (HSI) Operation Underground Railroad (OUR) และ Child Online Protection Action Thailand (COPAT) เพื่อร่วมระดมความคิด คัดเลือกกลุ่มโรงเรียนเป้าหมาย จัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ และดำเนินกิจกรรมเชิงปฏิบัติกับกลุ่มเป้าหมายต่อไป

“ขอขอบคุณสถาบันพระปกเกล้าคณะนักศึกษากลุ่มสิงโต หลักสูตรผู้นํายุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย รุ่นที่ 12 และผู้เกี่ยวข้อง ที่ได้จัดพิธีลงนามบันทึกแสดงเจตจำนง “โครงการ Stop Online Child Sexual Abuse” ภายใต้แนวคิดหลัก “การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย” ซึ่งได้มอบความรู้ที่ดีให้แก่เยาวชนไทย อีกทั้งยังได้จัดแสดงกิจกรรม จัดทำสื่อวิดีทัศน์ เรื่อง #NoGoTell: Stop Online Child Sexual Abuse เพื่อ “Stop Online Child Sexual Abuse” ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และยังมีการจัดทำ Workshop เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์ อย่างปลอดภัยแก่นักเรียน ทั้งนี้ ศธ.มีความยินดียิ่งที่จะเผยแพร่สื่อออนไลน์ดังกล่าวให้แก่นักเรียน และเยาวชนเรียนรู้ต่อไป” รมว.ศธ. กล่าวในตอนท้าย

นวรัตน์ รามสูต: เรียบเรียง

ฤทธิเกียรติ์ ยศประสงค์: ถ่ายภาพ

สุวิชา บุญญานุพงศ์: สรุป/กราฟฟิก

ประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน

9/3/2566

[Sassy_Social_Share]