“คุณหญิงกัลยา” จับมือรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ลงนาม MOU 8 ฝ่าย เร่งเครื่องขยายเครือข่ายจัดการน้ำสู่ชุมชน ตั้งเป้าเด็กจบมาต้องมีงานทำ
เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) การพัฒนาองค์ความรู้ด้านบริหารทรัพยากรน้ำ ระหว่าง มูลนิธินโยบายสาธารณะไทย กับ เทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง และหน่วยงานส่วนท้องถิ่น 6 แห่ง พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายโชติ โสภณพนิช ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย โดยมีผู้บริหารเทศบาลเมืองมาบตาพุด ส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับและนำลงพื้นที่ชมตัวอย่างธนาคารน้ำใต้ดินในพื้นที่การเกษตรของชุมชน จ.ระยอง
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในภารกิจและแผนการขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงเป็นการสนองพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรเพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้และแก้ปัญหาความยากจน นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะสร้างคุณประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับประเทศชาติ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการความร่วมมือสนับสนุนการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ นำศาสตร์พระราชามาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม แก้ปัญหาความยากจน และเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการสร้างศักยภาพ การผลิตชลกร การฝึกงานในหน่วยงานและถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ท้องถิ่นและสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำโดยชุมชนอย่างยั่งยืน
“วันนี้ดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ เพื่อขยายการมีส่วนร่วมของประชาชน และชุมชน ในการร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมพัฒนา องค์ความรู้ด้านบริหารทรัพยากรน้ำ ผ่านการวางรากฐานโดยสถานศึกษาเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่เป็นสากล และนำหลักวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ รวมถึงสามารถตอบโจทย์เรื่อง World Education ที่ทำให้เด็กมีรายได้ระหว่างเรียน จบมาแล้วมีงานทำ มีศักยภาพและแข่งขันได้” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว ปัจจุบันโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ได้ขับเคลื่อนมาจนก้าวสู่ปีที่ 4 สามารถขยายองค์ความรู้ทั้งทางทฤษฎี และปฏิบัติ ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำในระดับสากล สู่วิทยาลัยเกษตรเทคโนโลยีและประมง โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ให้สามารถพึ่งการจัดการน้ำโดยชุมชนเองได้ และภายใต้บันทึกความเข้าใจการพัฒนาองค์ความรู้ด้านบริหารทรัพยากรน้ำที่ได้เริ่มต้นในวันนี้ คาดว่าจะทำให้นักศึกษาหลักสูตรชลกรที่สำเร็จการศึกษารุ่นแรกทั้งหมด จะมีงานทำและพึ่งพาตนเองได้แม้ในยามที่ประเทศมีวิกฤต
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการบริหาจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ถือว่าเป็นโครงการสำคัญ และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะเทศบาลเมืองมาบตาพุด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นนำร่องในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านบริหารทรัพยากรน้ำในพื้นที่ชุมชน และหลักสูตร “ชลกร” จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว ในการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพออกมาพัฒนาประเทศต่อไป
นายโชติ โสภณพนิช ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย กล่าวว่า ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการฯ เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะส่งเสริม ประสาน และบูรณาการองค์ความรู้ด้านการบริหารทรัพยากรน้ำ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในระดับท้องถิ่น โดยมีวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนของแต่ละพื้นที่ และ มูลนิธิฯ จะสนับสนุนให้การขับเคลื่อนโครงการฯ ประสบผลสำเร็จ ให้ประชาชนได้รู้ถึงคุณค่าของน้ำ ส่งต่อความรู้ไปยังผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป ตลอดจนมีเป้าหมายที่สำคัญคือ แก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ มูลนิธินโยบายสาธารณะไทย ยังยืนยันเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งเป้าหมายไว้ รวมถึงสนับสนุน ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในการทำงานครั้งนี้ เพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมต่อไป
ประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
12/2/2566