รมว.ศธ. หารือกับ วอศ.เสาวภา เตรียมผลิต e-Book การทำอาหารไทย ดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ตามอัตลักษณ์ชาติไทย ตอบโจทย์สิบสาขาอุตสาหกรรมตาม Quick Win ของรัฐบาล
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้ประชุมหารือกับคณะผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษา (วอศ.) เสาวภา นำโดย นายรังสรรค์ บางรักน้อย ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา และคณะ เกี่ยวกับการผลิตสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (e-Book) ด้านการสอนทำอาหารไทย ให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษา “เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา” (Anywhere Anytime) และการยกระดับการสร้างการเรียนรู้และทักษะวิชาชีพสาขาอาหาร ตอบโจทย์สิบสาขาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ตาม Quick Win ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ของรัฐบาล
รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้เชิญผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา ซึ่งเป็นวิทยาลัยด้านคหกรรมและศิลปกรรมในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มาหารือถึงการจัดทำสื่อการเรียนการสอนการทำอาหารไทย ในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีข้อมูลและเนื้อหาด้านต่าง ๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ประวัติของอาหารไทย การเลือกซื้อวัตถุดิบ การปรุงอาหาร วิธีการและเทคนิคการถนอมอาหาร เป็นต้น มาปรับให้เป็นรูปแบบสื่อออนไลน์ (e-Book) เพื่อให้สอดคล้องกับการ “เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา” (Anywhere Anytime) ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
“การจัดการเรียนการสอนในยุคดิจิทัลเช่นนี้ ศธ.จะทำงานเชิงรุกเพื่อเตรียมจัดทำเนื้อหาการเรียนการสอนให้อยู่ในรูปแบบการเรียนออนไลน์ได้ง่ายขึ้น โดยเริ่มจาก “สาขาอาหาร” ซึ่งสอดคล้องกับการผลักดันการผลิตกำลังคนที่มีทักษะสูงสาขาอาหาร ตามแผนการพัฒนากำลังคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์ ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อผลักดันอาหารไทย ที่มีจุดเด่นและอัตลักษณ์ไม่แพ้ชาติใดในโลก ให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศตามยุทธศาสตร์ฯ ซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล จึงเริ่มต้นที่วิทยาลัยฯ เสาวภา เพราะนอกจากจะมีความเชี่ยวชาญด้านการเรียนการสอนสาขาอาหารแล้ว ยังเป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) สาขาอาหารและโภชนาการ และเป็นหนึ่งในศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management: CVM) สาขาการจัดการธุรกิจอาหาร และออกแบบนิเทศศิลป์ ด้วย โดยมอบให้วิทยาลัยฯ เสาวภา ปรับสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสื่อที่ดีและมีประโยชน์ ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นในรูปแบบ e-Book ที่สามารถเผยแพร่ให้นักเรียนนักศึกษา ครู และประชาชนที่สนใจ ได้เรียนรู้เพียงสแกน QR code เท่านั้น โดยยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ และความเป็นตัวตนของอาหารไทยและอาหารไทยโบราณ ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาเพียง 15 วัน สื่อ e-Book ด้านการเรียนการสอนอาหารไทยก็น่าจะพร้อมเผยแพร่สู่สาธารณชนได้” รมว.ศธ.กล่าว
นวรัตน์ รามสูต : สรุป/เรียบเรียง
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี : ถ่ายภาพ
สุวิชา บุญญานุพงศ์ : กราฟิก
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
11/10/2566